สุดสลด เก๋งเสียหลักพุ่งชนรถตู้รับส่งนักเรียน จนมีนักเรียนเสียชีวิต



เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 31 ต.ค.2568 เกิดอุบัติเหตุบนถนนหมายเลข 201 ชุมแพ-เลย กิโลเมตรที่ 252 พื้นที่ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ที่เกิดเหตุพบรถตู้โดยสารรับส่งนักเรียน ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน กาฬสินธุ์ สภาพพลิกตกลงข้างทาง

โดยมีผู้โดยสารเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง จากการตรวจสอบมีนักเรียนชายและหญิงได้รับบาดเจ็บ 3 คน และมีนักเรียนถูกรถตู้ทับร่าง 1 คน ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นาย จ. (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ใกล้กันพบรถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน ขอนแก่น สภาพเสียหลักอยู่ข้างทาง

จากการสอบถาม นาย จ. (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี คนขับรถตู้ ให้การว่า ตนได้ขับรถโดยสารนักเรียนจำนวน 14 คน เพื่อจะไปส่งที่อ.ชุมแพ ถึงที่เกิดเหตุขณะที่รถกำลังมุ่งหน้าอ.ชุมแพ รถเก๋งคู่กรณีขับสวนทางมา และได้ขับข้ามเลนเข้ามาเฉี่ยวชนจนทำให้รถตู้เสียหลักพลิกลงข้างทาง มีนักเรียน 1 คนถูกรถทับ และนักเรียนบาดเจ็บบางส่วน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย



เบื้องต้นนำส่ง 3 คน และมีนักเรียนบางส่วนที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ขณะนี้ผู้ปกครองได้นำไปดูแลแล้ว ส่วนผู้ขับขี่รถเก๋งบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้นำตัวส่งโรงพยาบาลชุมแพเพื่อรักษา จึงตรวจที่เกิดเหตุบันทึกถ่ายภาพรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการต่อไป

พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อสั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุอย่างรอบด้าน ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง โรงพยาบาล และหน่วยกู้ภัย ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่

ด่วน! ไฟไหม้โรงงานแทงค์ปูน ตรงข้ามโรงเรียนดัง ขณะนี้จนท.เร่งระงับเหตุ



วันที่ 31 ตุลาคม 2568 เมื่อเวลา 11.30 น. เฟซบุ๊ก Fire Rescue Thailand รายงานว่า เกิดเหตุ เพลิงไหม้โรงงานแทงค์ปูน ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามโรงเรียนเตรียมอุดม ถนนลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ช่วงระหว่าง คลอง 7 ถึงคลอง 8




เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหลายหน่วยได้ระดมรถน้ำเข้าสกัดเพลิงอย่างเร่งด่วน หลังพบกลุ่ม ควันดำหนาทึบลอยสูงขึ้นฟ้า




และสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมเพลิงระงับเหตุ ความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ




เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้และความเสียหายที่แท้จริง อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

ข่าวร้อนแรง ประกาศกฏอัยการศึกแล้ว !!นี่ล่ะคือสิ่งที่รอคอยมานาน…ดูเพิ่มเติม!!



เริ่มจาก นาวิกโยธิน ประกาศปิดด่านถาวร พรมแดนไทย-เขมร ที่จันทบุรีก่อน 3 จุด ห้ามนักท่องเที่ยวไทยและเขมร เข้าออกในพื้นที่นี้เด็ดขาด




นีคือด่านชายแดนไทย-เขมร ที่ทุบกล่องดวงใจ ของตระกูลฮุนเต็มๆ ที่เริ่มประเดิมในยกแรก




และจะทะยอย ปิดทุกด่าน ทุกเขตตลอดแนว ตามความเห็นชอบของ ผบ.แม่ทัพภาค หากเขมรยังคงมีพฤติกรรม เป็นภัยคุกคามราชอาณาจักรไทย และไม่ยอมถอนกำลังทหารออกจากแผ่นดินไทย และเขตพื้นที่ห้ามทหารเข้ามาวางกองกำลังโดยเด็ดขาด

ต่อไปก็คงตัดไฟฟ้า ตัดอินเตอร์เนต ห้ามส่งน้ำมันก๊าซหุงต้มและอาหารเข้าเขมร
และขอแนะนำให้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย บริษัทเจริญโภคภัณฑ์(CP) บริษัทไทยเบฟเวอเรจ (เบียร์ช้าง) ออกมาแสดงจุดยืน อยู่เคียงข้างประเทศไทย หากเขมรยังคงมีแนวคิดรุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นทางการเมืองของตระกูลฮุนหรือตระกูลชินก็ตาม สามบริษัทยักษ์ใหญ่นี้ควรประกาศ ถอนการลงทุนออกจากเขมรในทันที


ถ้าสามบริษัทยักษ์ใหญ่นี้ประกาศที่จะถอนการลงทุนในเขมร ตระกูลฮุนจะขาดใจตายในทันที

ช้างป่าภูวัวคลั่ง! ทำร้ายชาวบ้านดับกลางป่าทึบ ขณะออกหาของป่า



เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดบึงกาฬ ได้รับแจ้งว่าพบศพชายเสียชีวิตภายในพื้นที่ป่าทึบเชิงเขาภูวัว บ้านหนองบ่อ ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ หลังจากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บุ่งคล้า พร้อมอาสากู้ภัยสว่างศรีวิไลฯ จุดบุ่งคล้า และจุดโสกก่าม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่และทีมกู้ภัยต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าลึกประมาณ 1.5 กิโลเมตร พบศพชายในสภาพนอนหงาย สวมกางเกงขาดหลุดลุ่ย จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลังคือ นายทุย ( สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ชาวบ้านหนองบ่อ ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า

สอบถามญาติทราบว่า ผู้ตายได้ออกจากบ้านไปหาของป่า ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ไม่กลับบ้าน ญาติและชาวบ้านได้ช่วยกันออกตามหา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่พบร่างอยู่กลางป่าทึบ คาดว่าระหว่างที่นายทุยออกเก็บของป่า ได้เผชิญหน้ากับ ช้างป่า ในระยะกระชั้นชิด และถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ต่อมาอาสากู้ภัยสว่างศรีวิไลฯ ได้ช่วยกันเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกจากป่า ก่อนนำส่งให้แพทย์เวรโรงพยาบาลบุ่งคล้าชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และได้รับมอบร่างเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

เลือดไม่เพียงพอ ขอรับบริจาคด่วนเพื่อช่วยอาสากู้ภัย ขณะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ถูกรถพุ่งชนได้รับบาดเจ็บสาหัส



วันนี้ (29 ต.ค.68) อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัย สระบุรี แสดงความเสียใจกับทางครอบครัวของ น.ส.จิรวดี ท่อนทองแดง อายุ 22 ปี พลเมืองดีผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขณะหยุดรถเข้าให้ความช่วยเหลือเคสผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุบนถนนมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-บ้านฉาง)




เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.30 น. วันนี้ (29 ต.ค.68) แล้วเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ถูกรถพุ่งชน ขณะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ทำให้ในจุดเกิดเหตุ มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย เสียชีวิต 3 ราย




ทั้งนี้ น.ส.จิรวดี และเป็นภรรยา ของอาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัยสระบุรี นายวันเฉลิม อันชูนี ซึ่งขณะนี้บาดเจ็บอาการสาหัส รอการผ่าตัดอยู่ที่ รพ.ชลบุรี ที่ได้ประชาสัมพันธ์ขอบริจาคเลือดด่วน เนื่องจากเลือดมีไม่เพียงพอ




ก่อนเกิดเหตุ น.ส.จิรวดีและนายวันเฉลิม กำลังเดินทางไปเที่ยวฉลองวันเกิด เมื่อพบอุบัติเหตุระหว่างทาง จึงหยุดรถลงไปช่วยเหลือ แต่ถูกรถพุ่งชนเสียชีวิต โดยร่างของ น.ส.จิรวดี ท่อนทองแดง ทางญาติได้นำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศล ที่จังหวัดศรีสะเกษ

อดีตสารวัตรกำนันสาว ดับคาที่‼️ หลังขับเก๋งชนท้ายรถแวน ก่อนถูกกระบะชนท้ายซ้ำ ที่ อ.งาว จ.ลำปาง



เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันนี้ 29 ต.ค. 68 ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคัน ส่งผลให้อดีตสารวัตรกำนันสาวเสียชีวิตคาที่ 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย บนถนนพหลโยธิน ขาขึ้น บริเวณก่อนถึงวัดต้นมื่น เขตบ้านปันใต้ หมู่ 5 ต.ปงเตา อ.งาว จ.ลำปาง

​ทางด้าน​เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว พร้อมด้วยแพทย์นิติเวช รพ.งาว และสมาคมกู้ภัยอำเภองาว ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ชนกันรวม 3 คัน
คันแรกเป็น​รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน จ.ลำปาง สภาพพังเสียหายทั้งคัน พุ่งชนเข้ากับศาลาพักริมทาง พบร่าง นางสมจิตร โยธิน อายุ 47 ปี ที่อยู่บ้านปันเหนือ หมู่ 9 ต.ปงเตา อ.งาว จ.ลำปาง ซึ่งเป็น อดีตสารวัตรกำนัน ต.ปงเตา กระเด็นออกมาจากรถเสียชีวิตคาที่

คันที่สอง ​รถยนต์แวน โตโยต้า อแวนซ่า สีดำ ทะเบียน จ.ลำปาง จอดอยู่กลางถนน สภาพท้ายรถยุบเสียหาย
​รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน จ.ลำปาง: พุ่งเข้าไปริมทาง บริเวณหน้ากระโปรงรถพังเสียหาย โดยคนขับและผู้โดยสารรวม 2 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

​จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นางสมจิตร ผู้เสียชีวิต ได้ขับรถยนต์เก๋งสีขาวมาตามเส้นทางและเกิดเสียหลัก พุ่งชนท้ายรถยนต์โตโยต้า อแวนซ่า ที่จอดอยู่ข้างทางอย่างจัง หลังจากนั้น รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ ที่ขับตามมาได้พุ่ง ชนอัดท้ายรถเก๋งของผู้เสียชีวิตซ้ำอีกครั้ง ส่งผลให้ร่างของนางสมจิตร กระเด็นออกจากตัวรถเสียชีวิต ก่อนที่รถเก๋งจะไถลไปชนอัดเข้ากับศาลาพักริมทาง

ทางด้านร้อยเวรสอบสวน สภ.งาว จะดำเนินการสอบปากคำคู่กรณีและพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุ และรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ภาพข่าว - คุณเอ็กซ์ กู้ภัยอำเภองาว

ข่าวด่วน!! ไฟลุกไหม้รุนแรง! โรงงาน



29 ต.ค.68 คืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยมีส่วนของโรงงานโกดังที่ถูกไฟไหม้ พังลงมา โดยจนท.เผยว่า ขณะพนง.กำลังทำงานอยู่หน้าเตาปรุงอาหารแปรรูป พนง.ได้เปิดวาล์วก๊าซจุดไฟที่เตาตามปกติ แต่ขณะที่เปิดวาล์ว เกิดไฟลุกออกมาจากสาย ลุกลามอย่างรวดเร็ว

พนง.ต่างพยายามช่วยกันปิดวาล์ว แต่ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ต่างพากันตะโกนให้วิ่งหนีออกมานอกอาคาร โดยที่เกิดเหตุมีพนง.บางส่วนสำลักควัน ซึ่งไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

“ณวัฒน์” พูดล่าสุด หลังได้เงินคืน คิดไม่ถึง สิ่งที่ทำกับเงินนี้



ประเด็นร้อนระหว่าง กัน จอมพลัง และ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ยังคงเป็นที่จับตา หลังเกิดกระแสวิพากษ์เกี่ยวกับความโปร่งใสของมูลนิธิ “กัน จอมพลังช่วยสู้” โดยภายหลังณวัฒน์ออกมาเปิดเผยว่า ขอคืนเงินบริจาคจำนวน 50,000 บาทที่เคยมอบให้มูลนิธิ ทำให้กัน จอมพลัง ตัดสินใจโอนเงินส่วนตัวจำนวนดังกล่าวคืนให้ทันที พร้อมประกาศว่า จะไม่ขอรับเงินบริจาคใด ๆ เพิ่มจากประชาชนอีกต่อไป โดยขอให้สนับสนุนกันผ่านการซื้อสินค้าและกิจกรรมไลฟ์ขายของแทน

ต่อมา ณวัฒน์ โพสต์ตอบกลับทันที ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการรับเงินคืนจากบัญชีส่วนตัวของกัน แต่ต้องการให้คืนจาก “บัญชีมูลนิธิ” เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและหลักบัญชีของบริษัท พร้อมระบุว่า การโอนเงินส่วนตัวกลับมานั้น อาจไม่สามารถบันทึกทางบัญชีได้อย่างถูกต้อง พร้อมทิ้งท้ายว่า “ทุกอย่างควรดำเนินไปตามกฎหมายจะดีที่สุด”







ในเวลาต่อมา ณวัฒน์ ได้ออกมาไลฟ์สดแสดงจุดยืน โดยยืนยันว่า เงินจำนวน 50,000 บาทที่ได้รับคืน เขาไม่เก็บไว้เอง แต่ตั้งใจจะนำไปบริจาคให้สภากาชาดไทย พร้อมระบุชัดว่า


“ผมจะไม่ให้เงินนี้กับใครที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ไม่ให้กับผู้หญิงชื่ออีฟ ไม่ให้พิงกับแป้ง และไม่ให้พิงกับการเมืองแน่นอน ถ้าได้เงินคืนมา ผมจะโอนต่อให้สภากาชาดไทยทันที ผมไม่อยากให้เงินนี้อยู่ในความเสี่ยงหรือในกลุ่มผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น”

ณวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมูลนิธิเป็นผู้โอนคืนโดยตรง เรื่องก็จะจบลงทันที เพราะมูลนิธิยังมีเงินอยู่กว่า 90 ล้านบาท การคืนเพียง 50,000 บาทไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และหลังจากนั้นตนก็พร้อมถอยออกจากเรื่องนี้โดยไม่ขอพาดพิงอีก

ขณะที่ กัน จอมพลัง ออกมาชี้แจงภายหลังว่า ได้โอนเงินส่วนตัวจำนวน 50,000 บาทคืนให้ตามที่ณวัฒน์ร้องขอแล้ว แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่รับเงินส่วนตัว จึงได้โอนเงินจำนวนเดียวกันเข้าสู่บัญชีมูลนิธิอีกครั้ง พร้อมระบุข้อความกำกับว่า “ขอบริจาคช่วยมูลนิธิกัน จอมพลัง เพื่อนำเงินคืนคุณณวัฒน์”



กันกล่าวย้ำว่า ไม่ได้ต้องการขอเงินบริจาคคืนจากใคร และยืนยันว่าพร้อมจบเรื่อง โดยระบุว่า “คุณณวัฒน์จะเอาไปซื้อน้ำพริกแจกคน หรือทำอะไรก็แล้วแต่เลยครับ ผมอยากให้เรื่องนี้จบ เพื่อให้ทุกคนกลับไปทำมาหากินต่อ”

อย่างไรก็ตาม ทาง บอสณวัฒน์ ได้เคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับ กัน จอมพลัง ปมเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า ลิซ่า ลลิษา มโนบาล บริจาค ให้ กัน จอมพลังถึง 3 ล้านบาท ซึ่งต่อมาทราบว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม

รถชนแม่วัวท้องแก่ดับคาถนน คนขับเจ็บสาหัส!



เมื่อคืนวันที่ 28 ต.ค. 68 เวลาประมาณ 21.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถกระบะฟอร์ด สีดำ ทะเบียน งต 2679 สงขลา พุ่งชนแม่วัวท้องแก่ บนถนนกาญจนวานิช หมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา

แรงชนทำให้แม่วัวเสียชีวิตทันที พร้อมลูกในท้อง ส่วนคนขับชายวัยราว 20 ปี บาดเจ็บสาหัส มีเลือดออกที่ศีรษะและหน้าอก เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งนำส่งโรงพยาบาลสะเดา

ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า วัวตัวนี้ถูกล่ามไว้บริเวณสวนยางริมถนนมาหลายวันแล้ว แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ

เบื้องต้น ตำรวจ สภ.สะเดา อยู่ระหว่างสอบสวนหาสาเหตุ และติดตามหาเจ้าของวัว เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

แสบมาก! กันจอมพลัง แก้เกมอย่างแซ่บ หลังโอนเงินให้ บอสณวัฒน์ ด้วยบัญชีส่วนตัว แต่ถูกตอกว่าไม่รับ



หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กัน จอมพลัง ได้ทำการโอนเงินจำนวน 50,000 บาท คืน บอสณวัฒน์ ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินส่วนตัว พร้อมกับโชว์สลิปการโอน แต่ทางด้าน บอสณวัฒน์ ไม่ยอมง่ายๆ บอก ผมไม่ได้ต้องการเงินส่วนตัวของกัน ผมต้องการเงินคืนจากมูลนิธิ เพื่อให้เราหลุดพ้นการเกี่ยวโยง งานนี้ทำเอาเดือดกันทั้งเลยทีเดียว

ล่าสุด กัน จอมพลัง ได้อัดคลิปลงเฟซบุ๊กชื่อ กันจอมพลัง ช่วยสู้ ถึงกรณีที่บอสณวัฒน์ไม่ต้องการเงินส่วนตัวของกัน โดยเจ้าตัวเล่าว่า ตอนนี้ผมได้นำเงินส่วนตัวคืนให้ 50,000 ตามที่คุณณวัฒน์เจ้าของมิสแกรนด์ขอเงินบริจาคช่วยชายแดนคืนจากมูลนิธิกันจอมพลัง ผมเนี่ยได้โอนกลับไปที่บัญชีที่คุณณวัฒน์เปิดขอบริจาคขอเงินให้ทหาร หลังจากที่ผมนำเงินส่วนตัวโอนไป คุณณวัฒน์เนี่ยก็ออกมาบอกอีกว่าไม่รับเงินผมจะรับเงินมูลนิธิ

ซึ่งก่อนหน้านี้เนี่ยผมเชื่อว่าเงินที่คุณณวัฒน์ให้มาเนี่ย น่าจะเอาไปทำถนนหรือเอาไปทำประโยชน์ให้กับชายแดนแล้ว เพราะผ่านมาเนี่ยเป็นเดือนแล้วครับ แล้วมูลนิธิเนี่ยก็ยังมีโครงการอื่นๆที่ยังรอสร้างอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบังเกอร์หรืออะไรต่างๆนาๆเนี่ย ไม่เป็นไรครับเอาที่คุณณวัฒน์สบายใจ ผมเนี่ยก็เลยโอนเข้าไปอีก 50,000 ให้กับมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้

โดยเขียนด้านล่างไว้ว่าขอช่วยบริจาคช่วยมูลนิธิกันจอมพลัง ให้นำเงินคืนคุณณวัฒน์ ซึ่งตอนนี้กำลังรอดำเนินการให้ถูกต้อง แล้วให้คืนไปเลยครับ

ส่วนเงินที่ผมเนี่ยให้ไปที่บริษัทคุณณวัฒน์ตั้งแต่แรก 50,000 ผมไม่เอาคืนครับ คุณณวัฒน์จะเอาไปซื้อน้ำพริกแจกคน หรือจะเอาไปทำอะไรแล้วแต่เลย เราทุกคนได้แยกย้ายออกไปทำมาหากิน

อาลัย นักแสดงรุ่นใหญ่ ถูกหามส่ง รพ.ก่อนเสียชีวิตกะทันหัน



อาลัย “เบนซ์ ฮุย” นักแสดงรุ่นใหญ่ ถูกหามส่ง รพ.ก่อนเสียชีวิตกะทันหัน แฟนๆละครทั่วเอเชีย ต่างร่วมไว้อาลัยต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่



วันนี้ (28 ต.ค. 2025) สถานีโทรทัศน์ TVB ยืนยันข่าวเศร้า นักแสดงอาวุโสระดับตำนานของฮ่องกง “เบนซ์ ฮุย” หรือ “สวีเซี่ยวซง (許紹雄)” ได้จากไปอย่างสงบในวัย 76 ปี หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งซึ่งลุกลามจนส่งผลให้ระบบอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว

ข่าวการจากไปของเขาสร้างความโศกเศร้าให้กับทั้งเพื่อนร่วมวงการและแฟนละครทั่วเอเชีย ต่างร่วมไว้อาลัยต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของบุคคลผู้เป็นที่รักและเคารพ

“สวีเซี่ยวซง” เป็นที่จดจำจากบท “ฮวนสี่เกอ (覃歡喜)” ในซีรีส์ดัง Line Walker (使徒行者) ที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักแสดงสมทบที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการละครฮ่องกง เขาคือ “ใบไม้เขียว” ผู้ค้ำจุนแวดวงบันเทิงมายาวนาน และเป็นรุ่นพี่ที่ทั้งรุ่นน้องและทีมงานต่างให้ความเคารพ

นอกจอ เขาคือคุณพ่อที่อบอุ่นและสามีที่ซื่อสัตย์ เขาแต่งงานกับภรรยามานานกว่า 30 ปี มีลูกสาวหนึ่งคนชื่อ “สวี่ฮุ่ยชิง” ซึ่งเขารักและภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

ในปี 2023 เมื่อบุตรสาวเข้าพิธีแต่งงาน สวีเซี่ยวซงได้มอบคอนโดมูลค่ากว่าสิบล้านเป็นสินสอด และเชิญเพื่อนสนิทในวงการมากมายมาร่วมงาน อาทิ ตู้ฉีฟง, หลัวหลาน, โอวหยางเจิ้นหัว, เฉินฮ่าว, เฉินอินเหม่ย, เหมียวเฉียวเหว่ย, ชีเหม่ยเจิน, ซวนซวน, หม่าเต๋อจง, หวงฮ่าวเหยียน และเกาไห่หนิง ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นที่รักและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่เขามีกับเพื่อนร่วมงานทุกคน

รางวัลและผลงานเด่น

สวีเซี่ยวซงได้รับรางวัลมากมายจากสถานีโทรทัศน์ TVB ตลอดเส้นทางการแสดงกว่า 5 ทศวรรษ อาทิ

Outstanding Artiste Award (2012)
Best Supporting Actor (2013) จากละคร My盛Lady
รางวัลนักแสดงชายยอดนิยม (2014) จากผลงาน Line Walker
ผลงานของเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักแสดงรุ่นใหม่ และจะคงอยู่ในความทรงจำของผู้ชมตลอดไป