บัสมหาวิทยาลัยบูรพา เบรกแตก! ชนท้ายกันเอง คาด่านมอเตอร์เวย์ นศ.เจ็บ 41 ราย คนขับตายคาพวงมาลัย วิกฤตความปลอดภัย ยานยนต์หน่วยงาน
วิกฤตเบรกแตกคาด่านมอเตอร์เวย์ อุบัติเหตรถบัส ม.บูรพา ไม่ใช่แค่เรื่องเบรก! ตีแผ่เงาปริศนาใต้พวงมาลัยสู่หายนะองค์กร และธรรมาภิบาลความปลอดภัย
ความจริงที่บาดลึก ณ เวลา 17.55 น. ค่ำวันศุกร์ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ภาพที่เห็นจากหน้าสื่อคือฉากอันน่าสยดสยอง รถบัสนำคณะนักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา 70 ชีวิต ที่เพิ่งกลับจากภารกิจดูงานจังหวัดระยอง
ต้องมาประสบเหตุสลด ชนท้ายกันเองอย่างรุนแรง บริเวณหน้าด่านเก็บเงิน มอเตอร์เวย์ ทล.7 บางพระ ตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมืองดชลบุรี เป็นวินาทีที่ความสุขของการเรียนรู้นอกห้องเรียน แปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดอย่างฉับพลัน
ผลลัพธ์คือตัวเลขที่บอกเล่าความเสียหายอย่างเย็นชา นักศึกษาบาดเจ็บ 41 ราย แบ่งเป็นหญิง 36 ราย และชาย 5 คน ที่น่าเศร้าที่สุดคือการสูญเสีย 'นายสุชาติ กองม่ว'ง พนักงานขับรถบัสคันที่พุ่งชนท้าย วัย 55 ปี ที่ถูกคอนโซลและพวงมาลัย บีบอัดจนเสียชีวิตคาที่
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของข่าว ที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่คือรอยร้าวที่ฉายให้เห็นความเปราะบาง ของระบบที่เราเชื่อมั่น
คำให้การของคนขับคันหน้า 'นายสนธยา พุธภูมิ' คนขับรถบัสคันที่ถูกชนท้าย เล่าถึงนาทีวิกฤตที่เพื่อนร่วมอาชีพ ว่าคนขับคันหลังแจ้งมาอย่างตื่นตระหนก ระบุความผิดปกติของยนพาหนะ "รถเบรกแข็ง เบรกไม่อยู่" ก่อนที่จะเกิดแรงกระแทกเต็มพิกัด
คำถามที่ต้องขุดลึกกว่าพาดหัวข่าวคือ "เบรกแข็ง เบรกไม่อยู่" นั้น คือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแค่เฉพาะหน้า หรือเป็นสัญญาณเตือนที่ถูกเพิกเฉยมานาน ภายใต้ วิกฤตความปลอดภัยยานยนต์ของหน่วยงาน?
ถอดรหัสเบรกแตก ความจริงที่ซ่อนอยู่ใต้ระบบลมและน้ำมัน สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคือ กลไกการทำงานของเบรกในรถบรรทุก และรถบัสขนาดใหญ่ ซึ่งแยกออกเป็นสองระบบหลัก และแต่ละระบบมีจุดบอดที่ซ่อนเร้น ที่ต้องถูกนำมาพูดถึงอย่างตรงไปตรงมา
'ระบบลมดันน้ำมัน' (Air-over-Hydraulic) ระบบนี้ใช้ลมไปดันน้ำมันเบรก เพื่อให้เบรกทำงาน มักพบในรถเล็ก รถบรรทุกและรถบัสรุ่นเก่า จุดอันตรายที่สุดคือ เมื่อมีการใช้เบรกบ่อยครั้งติดต่อกัน เช่น การลงเขา จะทำให้จานเบรกร้อน และน้ำมันเบรกร้อนตาม จนซีลกันน้ำมันอ่อนตัว และรั่วซึมออกมา
นี่คือความหมายแท้จริงของเบรกแตก ไม่ได้แปลว่าชิ้นส่วนแตก แต่หมายถึง น้ำมันเบรครั่วออกจนหมด ทำให้ไม่มีแรงดันในการจับจานเบรก เพื่อหยุดรถ
เป็นความล้มเหลวที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และมักเป็นผลมาจาก การขาดการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน อย่างเข้มงวด หรือการเลือกใช้รถที่ถึงอายุแล้ว อย่างประมาทเลินเล่อ
'ระบบลมล้วนหรือเบรกจิฟฟรี่' (Full Air Brake) ระบบนี้ใช้ลมในการจับเบรกทั้งหมด มีข้อดีคือเบรกหนึบและตอบสนองเร็ว แต่ในระบบนี้ 'เบรกแตก' ไม่มีจริง มีแต่คำว่า "เบรกไหม้" หรือ "ลมหมด"
'เบรกไหม้' เกิดจากลมไม่พอคลายเบรก ทำให้ผ้าเบรกติดกับจานเบรก เสียดสีจนเกิดความร้อนสะสมและลุกไหม้ได้ เช่น เคสไฟไหม้รถบัสนักเรียนที่ดอนเมือง ก่อนหน้านี้
'ลมหมด' หากคนขับเหยียบเบรกบ่อยเกินไป เช่น ลงเขาโดยไม่ใช้เกียร์ต่ำช่วย หม้อลมที่มีความจุน้อย อาจปั๊มลมขึ้นไม่ทัน ทำให้ลมหมด และไม่สามารถดันเบรกเพื่อหยุดรถได้ ตามป้ายเตือน "รถทุกคันใช้เกียร์ต่ำ" ที่เราเห็นตามไหล่เขา ซึ่งมีจุดประสงค์ให้ใช้ 'Engine Brake' เป็นตัวช่วยหลัก
กลับมาที่เหตุการณ์ การที่คนขับคันหลังแจ้งว่า "รถเบรกแข็ง เบรกไม่อยู่" ณ ด่านเก็บเงินซึ่งเป็นทางราบ และไม่ได้มีการใช้เบรกอย่างหนักหน่วง ในการลงเขา คำกล่าวนี้ชี้ให้เห็นความบกพร่องทางเทคนิค ที่อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุที่ซ่อนเร้น เช่น
'น้ำมันเบรกขาดหรือรั่วซึม' หากเป็นระบบลมดันน้ำมัน
'สายลมเบรครั่ว' หากเป็นระบบลมล้วนหรือลมดันน้ำมัน อาจทำให้แรงดันลมไม่พอจับเบรก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
'ปัญหาที่ปั๊มเบรกหรือผ้าเบรกหมด' ความบกพร่องพื้นฐาน ที่สะสมจากการบำรุงรักษาตามวาระที่ไม่ถี่ถ้วน และเข้มงวดพอ
การใช้ 'Cruise Control' แม้จะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่การล็อคความเร็วอัตโนมัติ และการขับตามหลังในระยะกระชั้นชิด เมื่อรถคันหน้าเบรกกะทันหัน อาจทำให้คนขับมีเวลาตอบสนอง และแตะเบรกเพื่อชะลอความเร็วรถลงมาไม่ทัน
ตีแผ่เงาปริศนา จากวิกฤตเบรกสู่หายนะธรรมาภิบาลองค์กร นี่คือส่วนที่สื่อหลักมักจะไม่เจาะลึก อุบัติเหตุครั้งนี้สะท้อนอะไรที่ลึกซึ้ง กว่าแค่เบรกเสีย?
เมื่อรถที่รับผิดชอบชีวิตบุคลากร ของหน่วยงานการศึกษา ซึ่งควรเป็นสถาบันแห่งความรับผิดชอบ และมาตรฐานสูงสุด ต้องมาประสบอุบัติเหตุร้ายแรง คำถามที่ต้องพุ่งเป้าไปที่ผู้บริหาร และนโยบายที่เกี่ยวข้อง
มาตรฐานการจัดหายานยนต์ และความถี่ในการซ่อมบำรุง ต้องตั้งคำถามว่ารถบัสที่นำมาใช้ ซึ่งเป็นรถของมหาวิทยาลัยเองนั้น มีอายุการใช้งานกี่ปี? มีการตรวจเช็คสภาพรถ (Checklist) ก่อนออกเดินทางอย่างจริงจังหรือไม่?
และการซ่อมบำรุงตามระยะทาง ตามเวลาที่กำหนด เป็นไปตามมาตรฐานของผู้ผลิต หรือเป็นเพียงการซ่อมเพื่อให้วิ่งได้ ด้วยงบประมาณที่ถูกจำกัด?
ความล้มเหลวทางเทคนิค เป็นแค่ปลายยอดของภูเขาน้ำแข็ง ที่ฐานรากคือ ความล้มเหลวเชิงนโยบาย การจัดซื้อจัดจ้าง และการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)
วัฒนธรรมความปลอดภัยที่ถูกละเลย (Safety Culture Lapses) การที่รถบัสสองคันวิ่งตามกันเป็นขบวน แต่คันหลังไม่สามารถหยุดรถได้ทัน แสดงให้เห็นถึงปัญหาในการเว้นระยะห่างที่ปลอดภัย (Safe Following Distance) และการขาดการสื่อสารประสานงานที่รัดกุม ในการขับขี่เป็นหมู่คณะ
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ธรรมาภิบาลด้านความปลอดภัยของหน่วยงาน ในการจัดทริปที่ต้
Subscribe to:
Post Comments (Atom)




EmoticonEmoticon